(ปรึกษา) เรียนแพทย์ชั้นคลินิก อ่านหนังสืออย่างไร? เรียนอย่างไร?

เพิ่มเติม
- ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีนักกับครอบครัว เพราะเรื่องในอดีต ปัจจุบันโอเคขึ้น แต่เลือกได้ก็ไม่อยากเจอ พ่อแม่ไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่จะบอกอะไรหรือจะปรึกษา อยู่ห่างกันได้เท่าไรยิ่งดี
- โรคทาง psyche ที่เป็นอยู่ รักษาโดยพบจิตแพทย์และรับยามาได้ 2-3 ปีแล้ว แทบไม่ช่วยอะไรเลย มีประโยชน์น้อยถึงน้อยที่สุด (บอกเรื่องคิดฆ่าตัวตายให้จิตแพทย์ฟังเป็นประจำ เขาก็ห้ามแบบขอไปที เล่าปัญหา เขาก็ตอบกลับมาว่า อย่า abstract นักเลย) ด้วยข้อจำกัดทางตารางสอนทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนไปรักษาที่อื่นได้
- เคยหยุดเรียนไปพักหนึ่ง ระหว่างหยุดได้รักษาอาการ (ไม่ใช่แพทย์คนเดียวกับปัจจุบัน) ได้ยามา แต่ค่ารักษาแพงมาก และไม่ช่วยอะไร ไม่ดีขึ้น
- คงจะไม่หยุดเรียนอีก เสียเวลาไปแล้วกับการหยุดเรียนครั้งนั้น ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรกับคำที่ว่า "ตอนนี้ชีวิตสำคัญที่สุด ไม่ใช่การเรียน" สับสน จะว่าชีวิตสำคัญไหม ก็ในระดับหนึ่ง แต่พอเรียนไม่ได้มันก็ไม่มีเหตุผลให้อยู่ต่อ เหมือนเราเป็นความล้มเหลว ถ้าเราหายไปทุกอย่างจะจบ เราก็ไม่แน่ใจว่าเรียนแพทย์ทำให้อาการแย่ หรืออาการแย่เลยเรียนแพทย์ไม่ได้ รู้แต่ทุกวินาทีผ่านไปยากและช้ามาก อึดอัด ทรมาน อยากตาย
- มีอ.ที่ปรึกษา ที่ผ่านมาได้พบ 1 ครั้งถ้วน อ.พยายามเลี่ยงและไม่จริงจังกับปัญหาของเรา มีก็เหมือนไม่มี

ข้อมูลอื่นที่ลงลึก กรุณาหลังไมค์

ตั้งแต่เริ่มเรียนแพทย์ก็มีปัญหามาตลอด ไม่รู้วิธีอ่านหนังสือให้ได้ผล คือ
1. อ่านหนังสือออกก็เพราะเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษ แต่ไม่สามารถประมวลผล สรุปใจความ หรือทำความเข้าใจเนื้อหา ไม่สามารถตอบคำถามที่อ.ถามได้ ทำข้อสอบไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าโจทย์ถามหาอะไรหรือต้องตอบยังไง
บางข้อเข้าใจโจทย์แต่ก็ไม่รู้คำตอบ เหมือนว่าคำตอบไม่ได้อยู่ในที่อ่าน แต่ก็รู้ว่าที่จริงอยู่ แต่เราไม่สามารถประมวลผลนำมาตอบได้
2. ไม่รู้ว่าต้องหาคำตอบยังไง ต้องเสิชคำว่าอะไร เว็ปไหน
เบสิคที่สุดก็คือ uptodate แต่ก็ต้องใช้เวลาอ่านทั้งบทความ ไม่เจอคำตอบทันที ผลคือตอบคำถามอ.ไม่ได้
แอบดูหน้าจอเพื่อนข้างๆกันที่เสิร์ชในมือถือ เขาก็เสิชเจอ แต่เราเสิร์ชไม่เจอ (ไม่สามารถถามเพื่อนตรงๆได้)
หาคำตอบให้ไม่ได้ มีปัญหามากเวลาต้องตอบคำถามหรือทำงานเดี่ยว งานกลุ่ม
3. มีสมาธิจดจ่อได้ไม่นาน บางครั้งจดจ่อไม่ได้เลย ตัวอยู่หน้าหนังสือหรืออยู่ในห้องเรียน แต่ไม่สามารถโฟกัสได้เลย ทุกอย่างผ่านไปเหมือนน้ำ เหมือนลม เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

สองข้อแรกทำให้หนักใจมาก ยิ่งเรียนยิ่งแย่ โดนซอยก็ตอบคำถามไม่ได้ อ.และรุ่นพี่ก็มองว่าไม่อ่านหนังสือ ไม่พยายาม (พยายามแล้วแต่ไม่ได้ผลลัพท์ที่ต้องการ พยายามอีกก็ยังไม่ได้) แล้วพวกเขาก็ไม่สอนอีก เพราะเราอ่อนเกินกว่าจะเข้าใจ เขาจะไม่เสียเวลากับคนโง่
เพื่อนร่วมราวน์ก็มองว่าเราเป็นจุดอ่อน เป็นภาระ เอือมระอา ไม่อยากยุ่งกับเรา
 
เราไม่มีวิธีการอ่านหนังสือ ก็คือ เราเรียนไม่เป็นเลย เรียนไม่ได้เลย ผ่านมาถึงปัจจุบันได้ยังไงก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
ไม่รู้อาการที่เป็นอยู่คืออะไร แต่เราอ่านอะไรไม่รู้เรื่องเลยก่อนสอบ เหมือนมันไม่ใช่ภาษาคน มันผ่านตาแต่ไม่เข้าหัวเลยแม้แต่คำเดียว เหมือนนั่งจ้องหนังสือไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะจัดบรรยากาศให้เข้ากับการอ่านอย่างไรก็ตาม จะพอมาเข้าหัวบ้างในคืนก่อนสอบเท่านั้น เป็นการอ่านแบบพยายามทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด ท่องๆ ยัดๆเข้าหัวไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ท่องจำไปก็สิ้นหวังไป เพราะข้อสอบไม่เคยตรงไปตรงมา เราไม่สามารถประมวลผลเป็นคำตอบได้ การสอบทุกครั้งจึงเปรียบเสมือน one night miracle อาการนี้เป็นมาตั้งแต่มัธยมปลาย เคยปรึกษาจิตแพทย์แล้ว ไม่มีข้อสรุปใดๆ
เรียนเลคเชอร์ในห้อง รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ความรู้พรีคลินิกเก่าเราไม่ได้แน่นอะไร เราไม่สามารถไปสืบค้นเพิ่มหรือต่อยอดได้ ไปหาคำตอบให้สิ่งที่ไม่รู้ไม่ได้ ทำตัวเองให้เข้าใจไม่ได้ เหมือนเรียนจบแล้วจบกัน เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เครียดทุกลมหายใจ รู้ว่ามีปัญหานี้แต่ไม่รู้จะแก้ยังไงมาตลอด มืดแปดด้านมาก
 
(ถ้าขี้เกียจอ่าน ข้ามไปย่อหน้าสุดท้ายได้เลย)

เมื่อตอบคำถามอ.เวลาราวน์หรือเรียนไม่ได้ ทำให้เพื่อนคิดว่าไม่ยอมอ่านมา กินแรง เป็นภาระ เพื่อนเอือมระอาและรังเกียจเรา เข้ากับเพื่อนแทบไม่ได้ ทำงานกลุ่มเราจะเป็นเศษเสมอ เราไม่สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาได้ ทำอะไรก็ดูไม่ใช่ไปเสียหมด อึดอัดมาก ถามหรือพูดอะไรไป ได้แต่ความเงียบกลับมา (แต่กับคนอื่นพวกเขาก็ปกติดี) จนเราเรียนรู้ว่าไม่พูดอะไร ไม่ทำอะไรเลยจะดีที่สุด จะให้เพื่อนสอนหรือติว แน่นอนว่าเขาไม่เต็มใจ
สิ่งมีชีวิตเดียวที่พูดคุยตอบโต้และรับฟังกับเราคือจิตแพทย์ (พักหลังเรารู้สึกว่าเขาเบื่อที่จะรับฟัง เราไปหาทุกครั้งพูดแต่เรื่องเดิมๆ ปัญหาเดิมๆที่แก้ไม่ตก สงสารเขาและสมเพชตัวเองเหลือเกิน)
 
เราร้องไห้และอยากตายเกือบทุกวัน ประกอบกับโรคทาง psyche ที่เป็นอยู่ด้วย ตอนดิ่งถึงขีดสุดไม่มีอะไรหยุดได้เลย เหมือนถูกดูดเข้าไปในหลุมลึกมากๆ ทีเดียวจมหายทั้งตัว ต้านไม่ได้เลย วางแผนฆ่าตัวตายอย่างละเอียดหลายวิธีหลายครั้ง ขาดแค่ลงมือทำ จดหมายลาที่เขียน นอกจากชื่อ อายุ เป็นลูกของใคร ก็ไม่มีอะไรให้เขียนอีกแล้ว ชีวิตมันไร้ค่าถึงขนาดนั้น ไม่มีความฝัน ความหวัง ไม่มีอะไรทั้งนั้น มีแค่ชีวิตที่ยังต้องใช้อยู่ อยู่ในสังคมที่เราอยู่จุดต่ำที่สุด
ดิ่งหนักๆ 1-2 ครั้ง/เดือน พอหายดิ่งก็กลับไปใช้ชีวิต แล้วก็ดิ่งใหม่ ต่อสู้กับอาการต่างๆคนเดียวมาตลอด แต่ละวันผ่านไปอย่างยากลำบาก

ไม่เคยมีความสุขเลยตั้งแต่เรียนมา ทุกข์มากขึ้นเรื่อยๆ หลายครั้งที่สงสัยว่าถ้าลาออก ทุกอย่างที่ทรมานอยู่จะจบลงหรือไม่? แต่ก็เสียเวลามาหลายปีเกินกว่าจะย้อนกลับ สงสารครอบครัว อยากหายไป เราไม่อยู่ อะไรๆคงดีและง่ายกว่านี้ อยากให้ทุกอย่างจบลง ไม่อยากอยู่อย่างขยะ อยากมองหน้าตัวในเองกระจกอย่างภูมิใจได้อีกครั้ง
ความตายไม่ใช่การหนี แต่เป็นทางออกหนึ่งที่ดูเหมือนจะครอบคลุมได้หลายเงื่อนไข ไม่ต้องไปเริ่มต้นเรียนที่อื่นใหม่ ไม่ต้องเป็นภาระของครอบครัว เพราะเป็นมาตลอด เราไม่น่าเกิดมาเลยจริงๆ
ไม่คาดหวังจะมีความสุข สำหรับเราความสุขเป็นเรื่องที่พิสูจน์แล้วหลายครั้งว่าเป็นไปได้ยาก แค่อยากพออยู่ได้เท่านั้น แต่ทุกวันนี้อยู่ยากเหลือเกิน
 
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ ขอบคุณมาก
เราคือขยะในสายตาที่นี่ โง่ ไร้ค่า อ่อนแอ ฟูมฟาย ชอบเรียกร้องความสนใจ เราอยากกลับมาเป็นคน
อยากเรียนได้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องเครียด ผวา อยากตายทุกสอบขนาดนี้ อยากยืนบนขาตัวเองได้
ใครมีวิธีอ่านหนังสือให้ได้ผลดี รบกวนแนะนำด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่